บทที่ 6

บทที่ 6 ดาวฤกษ์

ดาวฤกษ์ ( Star )

  • ดาวฤกษ์ คือ ก้อนแก๊สร้อนขนาดใหญ่มีไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่
  • ดาวฤกษ์ต่างจากดาวเคราะห์ที่สามารถผลิตพลังงานได้ด้วยตนเองจึงสามารถเปล่งแสงได้
  • ดาวฤกษ์ทุกดวงยกเว้นดวงอาทิตย์ปรากฏเป็นจุดสว่างบนท้องฟ้าซึ่งกะพริบได้เนื่องจากจากผลของบรรยากาศโลกและระยะห่างจากโลก
  • ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์เช่นกัน แต่อยู่ใกล้เราจนปรากฏเป็นแผ่นกลมแทนที่จะเป็นจุด
วิวัฒนาการของดาวฤกษ์

  • ดาวฤกษ์เกิดจากการยุบตัวของเนบิวลา
  • ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนดาวฤกษ์เรียกว่า  เทอร์โมนิวเคลียร์ หรือ นิวเคลียร์แบบฟิวชั่น
  • เนบิวลาที่มีความหนาแน่นมากจะยุบตัวลงเกิดเป็นดาวฤกษ์ก่อนเกิด Protostar ซึ่งอุณหภูมิและความดันที่ใจกลางยังไม่มากพอที่จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ขึ้นได้
  • เมื่อดาวฤกษ์ยุบตัวภายใต้แรงโน้มถ่วงจนเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แล้วจึงจะเริ่มเปล่งแสงและกลายเป็นดาวฤกษ์โดยสมบูรณ์
  • ดาวฤกษ์ที่มีมวลมาก มีความสว่างมาก ใช้เชื้อเพลิงในอัตราสูง มีชีวิตสั้น
  • จุดจบของดาวฤกษ์ที่มีมวลมากจะมีการระเบิดอย่างรุนแรง เรียกว่า Supernova
  





ดวงอาทิตย์
  • มีอายุมาแล้ว 5000 ล้านปี และจะมีชีวิตต่อไปอีก 5000 ล้านปี
  • พลังงานในดวงอาทิตย์ได้มาจากปฏิกิริยา เทอร์โมนิวเคลียร์หรือนิวเคลียแบบฟิวชั่น
  • เมื่อใช้เชื่อเพลิงไฮโดรเจนหมดแกนกลางจะยุบตัว เกิดการเผาผลาญฮีเลียม แล้วจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเป็นดาวยักษ์แดง
ความสว่างและอันดับความสว่างของดาวฤกษ์

  • ความสว่างของดาวฤกษ์เป็นปริมาณพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ดวงนั้นใน 1 วินาทีต่อ 1 หน่วยพื้นที่

สีและอุณหภูมิของดาวฤกษ์
  • สีของดาวฤกษ์จะมีความสัมพันธ์กับอุณหภูมิที่ผิว และอายุของดาว
  • ดาวที่มีสีน้ำเงิน จะมีอุณหภูมิผิวสูง อายุน้อย
  • ดาวที่มีสีส้มแดง จะมีอุณหภูมิผิวต่ำ อายุมาก
  • ดวงอาทิตย์เป็ดาวฤกษ์สีเหลือง มีอุณหภูมิผิวประมาณ 6000 เคลวิน 
ระยะทางในดาราศาสตร์
  • 1 หน่วยดาราศาสตร์ ( Astronomical Unit ) มีค่าเท่ากับระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงโลก หรือ 150 ล้านกิโลเมตร เป็นหน่วยที่ใช้ในการบอกระยะห่างภายในระบบสุริยะ
  • 1 ปีแสง ( Light Year ) คือ ระยะทางที่แสงเดินทางใช้เวลา 1 ปี คิดเป็นระยะทาง 9.5 x 10^12
  • 1 พาร์เซก ( Parsec ) ระยะจากโลกถึงดาวที่มีมุมแพรัลแลกว์เท่ากับ 1 ฟิลิปดา คิดเป็นระยะทาง 206265 A.U. หรือ 3.26 ปีแสง
ระยะห่างของดาวฤกษ์     


เนบิวลา
     คือ กลุ่มฝุ่นแก๊สขนาดใหญ่ ประกอบด้วย แก๊สไฮโดรเจนและฮีเลียม เป็นแหล่งกำเนิดดาวฤกษ์ เมื่อมองด้วยตาเปล่าหรือใช้กล้องสองตาจะเป็นฝ้า ขาวจางๆ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
  • เนวบิวลาสว่างประเภทเรืองแสง ( Emission nebula )
ส่วนใหญ่จะเป็นอะตอมไฮโดรเจน จะปล่อยแสงสีแดง กับอะตอมของออกซิเจนให้แสงสีเขียว เช่น เนบิวลาดาวนายพราน เนบิวลา นกอินทรี เนบิวลาสามแฉก เนบิวลาปู

    


  • เนบิวลาสว่างประเภทสะท้อนแสง
องค์ประกอบของฝุ่นผงเป็นส่วนใหญ่คล้ายควันบุหรี่ ซุ่งจะให้แสงสีน้ำเงินออกมา เช่น เนบิวลาในกระจุกดาวลูกไก่


  


  • เนบิวลาดาวเคราะห์
จะเกิดในช่วงสุดท้ายของดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อย Planetary nebula ในเอกภพนั้นมีเยอะแยะมากมาย เพราะดาวฤกษ์ส่วนใหญ่จะมีขนาดเท่ากับดวงอาทิตย์ แต่เป็นที่น่าประหลาดใจมากกว่า รูปร่างของ  Planetary nebula กลับมีหลากหลาย





เนบิวลาตาแมว


เนบิวลาวงแหวน

  • เนบิวลามืด ( Dark nebula )
สามาถมองเห็นเนบิวลามืดได้เพราะส่วนที่เป็นเนบิวลามืดนั้นจะดูดกลืนแสงจากด้านฉากด้านหลัง ไม่ให้มาเข้าตาเรา คล้ายกับว่ามีวัตถุทึบแสงกันอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นฝุ่นผงที่หนาทึบมากๆ เช่น เนบิวลามืดรูปหัวม้า ในกลุ่มดาวนายพราน


  


                                                                                                                                                                                                                   



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น